ปฐมบทแห่งสมุนไพรปัถวีมดรกตกทอดทางภูมิปัญญา ที่XOOMER ได้โพสต์ไว้ ปัถวี ไม่ได้มีดีที่แก้สิว

ปฐมบทแห่งสมุนไพรปัถวีมดรกตกทอดทางภูมิปัญญา ที่XOOMER ได้โพสต์ไว้ ปัถวี ไม่ได้มีดีที่แก้สิว

ตอนที่ 1: เมื่อมองเห็นเป็นสิ่งไม่น่าเชื่อ…..แต่พอได้ลองแล้วต้องเชื่อ……

ประสบการณ์ชีวิตครั้งแรกของผม ที่ทั้งชีวิตทำมาหากินเป็นนักบริหารมืออาชีพ แต่วันดีคืนดีอยากจะลองลุกขึ้นมาเป็นเจ้าของกิจการ และ Brand ของตัวเองบ้างสักครั้ง แต่สิ่งที่ผมเริ่มต้นมันแตกต่างจากอีกหลายๆคนตรงที่ว่า ผมนำสิ่งที่ทั้งตัวผมเองและบรรพบุรุษมีประสบการณ์ที่ดีกับของสิ่งหนึ่ง และใช้กันอยู่ในตระกูลออกมาเผยแพร่ทำขาย ให้คนอีกมากมายเห็นของแล้วไม่น่าเชื่อ แต่พอลองแล้วก็ต้องเชื่อ

ใช่ครับ….มันยากกว่าการที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ที่คนรู้จักกันดีอยู่แล้ว แล้วก็ขายอะไรที่เป็น ME TOO เกาะกระแสตามชาวบ้านเขาไปด้วยอีกคน

จริงๆแล้ว ผมก็ไม่ได้คิดอะไรขึ้นมาใหม่เลยนะ เพียงแต่ผมนำเอาสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติแท้ๆที่หายสาบสูญไปเป็นร้อยๆปี ที่คนรุ่นปู่ย่าตายายใช้กันได้ผลอย่างแพร่หลายมา Relaunch ใหม่ ใส่ขวดให้มันดูทันสมัยให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้กันเท่านั้นเอง

ในสมัยก่อน ยาสมุนไพรสามัญประจำบ้านคนไทยก็มี ยาหอม ยาดม ยาหม่อง ยาเหลือง และอีกตัวหนึ่งคือ “ปัถวี” ยาทุกอย่างอยู่ยงคงกระพันเป็นของสามัญประจำบ้านของหลายๆคนจนถึงทุกวันนี้ เพราะยังมีขายมีให้ซื้อหากันได้ แต่ปัถวีเป็นตัวเดียวที่หายไป เพราะเป็นเรื่องของความลับของสูตร และสมุนไพรที่ใช้ในปัถวี ที่เป็นเรื่องของตระกูลเจ้าของสูตรเก็บเอาไว้เป็นความลับ …. ลับมากจนหายสาบสูญไปตามกาลเวลา

จริงๆผมเองก็รู้มาตั้งแต่รู้ความแล้วล่ะครับว่า ตระกูลของผมเองเป็นเจ้าของสูตรนั้นแล้วก็เป็นมรดกตกทอดกันมาตั้งแต่รุ่นคุณ ทวดคุณย่าที่ท่านอยู่ในวัง แต่พอดีตระกูลผมมีแต่นักวิชาการ ไม่มีนักการตลาด เลยไม่มีใครคิดจะนำมันกลับมาเผยแพร่มาก่อน เพียงแต่ผสมปัถวีใช้กันมาทั้งครอบครัวและผมก็ได้ใช้มาตั้งแต่เกิดแล้ว คือเกิดมาก็รู้จักกับมันแล้วนั่นล่ะครับ

ตอนผมเด็กๆสมัยนั้นยังไม่มีแพมเพิสขายกันหรอก เค้าใช้ผ้าอ้อมกันทั้งนั้น พอใช้ผ้าอ้อม มันก็ต้องมีรายการโดนผ้าอ้อมกัดเป็นผดผื่นนั่นล่ะครับ คุณย่าก็เอาปัถวีนี่ล่ะทาให้ พอโตขึ้นมาหน่อยก็จำความได้ว่า ยุงกัดมดกัดก็เอาปัถวีทา ทาปั๊บมันก็เย็น เย็นแล้วมันก็ไม่คัน ไม่คันก็ไม่ต้องเกา ไม่เกาแผลก็ไม่ลาม แล้วสักพักตัวว่านที่อยู่ในปัถวีก็ค่อยๆรักษาให้ตุ่มยุงกัดมดกัดมันค่อยๆยุบ ลงไปเอง ตื่นเช้าขึ้นมาดูตุ่มแดงๆที่โดนกัดมันก็หายไป

โตขึ้นมาอีกหน่อย พอเริ่มมีอิสระไปเที่ยวไหนเองได้ พอไปทะเลก็เอาปัถวีติดตัวไป เพราะพ่อผมบอกไว้แล้วว่า เจอปึ่งทะเลกัดแล้วมันจะเป็นตุ่มบวมเหมือนเป็นฝีไม่ค่อยมีอะไรเอาอยู่ แต่นี่ล่ะของดีเอาอยู่แน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างพ่อว่าไว้ โดนปึ่งกัดจริงๆแล้วปัถวีก็ปราบอาการคันคะเยอและร่องรอยโดนกัดได้ทันใจจริง อย่างท่านว่า ประโยชน์ข้างเคียงอีกอย่างของมันก็คือกลิ่นหอมๆเย็นๆ เวลาไปเที่ยวไหนร้อนๆ เกิดเวียนหัวจะเป็นลมก็หยิบมาดมแทนยาดมได้ชื่นใจดี

ผมก็รู้แค่นั้นล่ะครับ ว่าปัถวีรักษาอาการทางผิวหนังได้หลายอย่างตามที่เล่ามา ทาได้ดมได้ จนผมมีลูกและลูกโตอายุ 14 ผมถึงเพิ่งมารู้ว่า มันรักษาได้อีกอย่างเพราะพ่อผมอีกนั่นแหละ มาบอกว่าให้เอาปัถวีทาสิวให้ลูกผม มันจะค่อยๆยุบในสองสามวันโดยไม่เหลือรอยดำๆ แล้วก็จริงอย่างท่านว่าอีกนั่นแหละ ลูกผมหน้าใสไร้สิวได้จริงๆด้วย

อย่ากระนั้นเลย เกิดมาได้ 40 กว่าปี ลองเอาปัถวีกลับมา Relaunch อีกครั้งเสียหน่อยจะดีไหม ? ลองทำเล่นๆ ถ้าเกิดก็ดีไป ถ้าไม่เกิดก็ไม่เสียหายอะไรยังไงเราก็ยังทำใช้กันเองในครอบครัวกันต่อไปอยู่ ดี……นั่นล่ะครับที่ผมคิดอยู่ในใจ

ผมเริ่มด้วยการทำแจก ….. แน่นอนครับ ของมันหายสาบสูญไปเป็นร้อยๆปีเสียขนาดนั้น อยู่ๆลุกขึ้นมาทำขายใครเขาจะรู้จัก ใครเขาจะเชื่อ ก็เจ้าของยาเหลือง ยาหอม ที่เขาดังกันคับประเทศ ขายกันส่งออกไปข้ามโลก ขายกันจนรวยเละ ทุกบ้านต้องมีติดบ้าน พกติดตัว เขายังเริ่มด้วยการทำแจกให้คนลองใช้ก่อนเลยนี่นะ….

ผมทำแจกเพื่อนลูก เพื่อนผม ญาติเมีย ญาติพ่อตาแม่ยาย ฯลฯ เจอใครแจกหมด แล้วเฝ้าดูผลว่าใช้กันไปสักพักแล้วเขาจะว่ายังไงกันบ้าง

ผลปรากฏว่าแจกไป 50 ขวด ตอบกลับมาว่า “มันเจ๋งหวะ” ทั้งหมดทุกคน ส่วนใหญ่ไม่ขอฟรีแล้ว แต่ถามว่าขอซื้อบ้างได้ไหมล่ะ (เพื่อนบางคนมันไม่ขอซื้อ แต่มันบอกขอฟรีอีกขวดสองขวดดิ แม่ยายตรูติดใจโคตะระเลย กรำ…)

มีสองเรื่องประทับใจในการแจกที่สุดก็คือนายผมเอง คุณพาที สารสิน CEO นกแอร์นั่นล่ะครับ แกเป็นผดผื่นคันแพ้เหงื่อหลังเล่นสควอชต์ แล้วผมก็รู้ว่าแกใช้ยาฝรั่งซื้อจากออสเตรเลียแล้วก็เคยฝากผมซื้อด้วยหลาย ครั้ง พอแกได้ลองแกบอกว่า เฮ้ย….ขอซื้อโหลนึงขวดใหญ่มีป่าว เลิกใช้แล้วเว๊ยยาฝรั่ง ใช้ยาเอ็งดีกว่า หายดีแล้วก็เป็นธรรมชาติดีด้วย

เพื่อนผมอีกคนเป็นดาราชื่อดังคับประเทศครับ คงบอกชื่อไม่ได้ เพราะเธอติดสัญญาเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่งอยู่ จริงๆเธอใช้ปัถวีมานานมากแล้ว มาแบ่งของที่บ้านเราผสมใช้กันเองไป เห็นอายุจะสี่สิบ แต่หน้ายังเนียนๆใสๆนั่นล่ะเอาปัถวีโปะหน้าเหลืองอ๋อยก่อนนอนแทบทุกคืน ไม่ใช่ของราคาขวดละหลายพันหรอกครับ ผมยังขำเลยตอนที่เอาไปแจก เพราะเธอบอกว่า นู๋ไปขอแบ่งถึงพี่แล้วยังแถมมาแจกให้อีกเหรอคะ ทั้งไถทั้งแจกเลยนะเนี่ย 555

กลับมาเรื่อง คนลองแล้วขอซื้อดีกว่า….

พอมีคนกลับมาขอซื้อ ทีนี้ก็ยุ่งล่ะสิครับ ก็บอกตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่า เคยแต่ทำงานบริหาร เคยเป็นเถ้าแก่ขายของซะที่ไหนกัน ต้นทุนขวดละเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้ ของแบบนี้เค้าคิดกำไรกันกี่เปอร์เซ็นต์ก็ยังไม่รู้

ก็เลยตอบทุกคนกลับไปว่า ถ้าทำขายเมื่อไหร่แล้วจะบอกนะ……

จากโอกาสที่ได้มา ผมก็ค่อยๆเริ่มล่ะครับ ศึกษาลองผิดลองถูก ถามไถ่ผู้รู้ด้วย จนทำปัถวีในขวดใหม่ดูทันสมัยขึ้นมาจนได้ แต่สิ่งที่ผมเก็บไว้ไม่ยอมเปลี่ยนแน่ๆคือความเป็นดั้งเดิม สมุนไพรล้วนๆ ไม่ยอมปรับปรุงหน้าตาให้ทันสมัยโดยใส่สารเคมีอะไรลงไป ให้มันเป็นผงสมุนไพรนอนก้นอยู่ในน้ำบริสุทธิ์ เวลาใช้ต้องเขย่าแรงๆให้มันผสมกันดีนั่นแหละ

ผมเชื่อในสิ่งที่ผมรู้จักมันดี ใช้มันติดตัวอย่างได้ผลมาตั้งแต่บรรพบุรุษและตลอดชีวิตผมเอง ผมจะไม่เปลี่ยนให้มันเป็นอย่างอื่น เพราะถ้าเปลี่ยนแล้ว ผมไม่รู้ว่ามันจะยังเจ๋งเหมือนเดิมหรือเปล่ายังไงล่ะครับ…..

การที่ผมไม่ยอมเปลี่ยน Look ของมันนี่แหละ ทำให้ตั้งแต่ผมเริ่มทำขาย เอาไปให้เพื่อนๆที่สนใจอยากจะขายมันบ้างดู หลายคนทำหน้าตาประหลาดเมื่อได้เห็น และเกือบทั้งหมด ผมอ่านสีหน้าท่าทางได้เลยว่า ไม่ค่อยจะเชื่อมันสักเท่าไหร่ แล้วก็คงคิดในใจว่ามันจะไหวเหรอเนี่ย…..แต่ด้วยความเกรงใจ คงไม่กล้าบอกกับผมมาตรงๆ

ผมก็บอกพวกเขาว่า ค่าของความเป็นเพื่อนมันมีมากมาย มันเทียบไม่ได้หรอกกับที่ผมจะมาหลอกขายยาอะไรทาแล้วสีเหลืองอ๋อยราคาไม่กี่ สิบบาท แล้วผมเสียเพื่อน ตัวผมที่ทั้งชีวิตไม่เคยเสียคน ต้องมาเสียคนกะของราคาแค่ไม่ถึงร้อยบาท แต่ผมกำลังจะบอกว่า “มันเจ๋งจริงๆหวะ” แล้วถ้ามันเจ๋งจริง ผมจะกดเครื่องคิดเลขให้ดูว่า เขาจะขายหาเงินกับมันได้เดือนละเท่าไหร่

คงจะด้วยความเป็นคนโม้เก่ง หรือความที่เพื่อนผมมันเกรงใจก็ไม่รู้ได้ มันก็เลยซื้อไปลองกันคนละขวดสองขวด บางคนยอมเสี่ยงเชื่อลมปากผมซื้อกันไปคนละโหลสองโหล แล้วก็คงคิดว่าอย่างมากก็โยนทิ้ง เพราะเสียค่าลองของไปไม่กี่ร้อยบาท

ผมอยากจะบอกว่า ผมดีใจเป็นที่สุดครับ ที่เพื่อนทุกคนตอบกลับมาเหมือนเดิมว่า “เฮ้ย….มันเจ๋งจริงหวะ” เหมือนตอนที่ผมทำแจกอยากลองของในตอนแรก

ที่น่าปลื้มกว่านั้น เพื่อนฝูง ญาติ พี่น้องมีคำถามต่อไปว่า “ขายส่งขวดล่ะเท่าไหร่ อยากเอาไปขายมั่ง” แล้วก็จากตรงนั้นเอง ปัถวีก็ค่อยๆเริ่มกระจายลงตลาด ทั้งขายตรง และวางตามจุดต่างๆในเครือข่ายของเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง รอบตัวของผมเอง

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ จากวันที่ผมลองแจกไป 50 ขวด เดือนแรกผมขายได้พันกว่าขวด จนต่อมาไม่นานมี order มาจ่อก้นทุกวันและขายไปเดือนละหลายพันขวด หมายถึงว่าการเจริญเติบโตกว่า 300% ในช่วงไม่กี่เดือน! ลูกน้องผมบางคนเอาไปหาตังค์ได้พอๆกับเงินเดือนตัวเอง เพื่อนบางคนก็หาตังได้หลาย บางคนก็ต้องหาทางอธิบายเมียว่าไปเอาเงินมาจากไหน ถ้ามันไม่แอบเมียไว้เอาเป็นค่าเหล้าส่วนตัวนะครับ 555

มันเหลือเชื่อจริงๆครับ จนผมเองยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คำว่า “มันเจ๋งหวะ” ของเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง จะพาของสิ่งนี้ไปได้ไกลเร็วขนาดนี้

ยอดขายแค่หลายพันขวดต่อเดือนในวันนี้ เทียบกับความกว้างใหญ่ไพศาลของตลาดที่เป็นสินค้า ใครซื้อก็ได้ซื้อไว้ติดบ้าน พกติดตัว มันยังอีกยาวไกลมากนัก และคงต้องใช้เวลาอีกนานพอดู ที่ปัถวีจะกลับมาจากการหายสาบสูญไป และกลับมาเป็นสมุนไพรสามัญประจำบ้านของคนไทยดังเดิม เหมือนเมื่อนับร้อยปีที่ผ่านมา

สุดท้ายนี้ ผมจะไม่บอกว่าปัถวีมีขายที่ไหน เพราะผมขอแสดงเจตนารมณ์ว่า ผมไม่ได้ตั้งใจจะเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตเรื่องนี้ของผมกลายเป็น Blog ขายของไปเสีย ซื่งเป็นเรื่องผิดกติกาของสถานที่แห่งนี้ครับ

ผมเพียงแต่อยากจะมาเล่าเรื่องบางเรื่อง ให้คนได้อ่านเป็นความรู้เกี่ยวกับของดีของไทยอย่างหนึ่งที่หายสาบสูญไป และกำลังกลับมาใหม่อีกครั้ง และหวังเล็กๆไว้ว่าให้เรื่องราวของผม อาจเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับใครอีกหลายคน ที่กำลังมองหาโอกาส หาทางเดินให้กับตัวเอง ในสภาพเศรษฐกิจที่มันหนักหนาสาหัสอยู่ในปัจจุบันครับ